วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

โรงเรียนนายร้อยตำรวจ เปิดรับสมัคร นักเรียนนายร้อยตำรวจ (ทั้งชายและหญิง) เร็ว ๆ นี้


สำหรับผู้ที่ไฝ่ฝันจะเข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ เตรียมตัวให้พร้อม
คุณสมบัติ
ข้าราชการตำรวจ (ชาย-หญิง)
- รับราชการตำรวจมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
- สำเร็จการศึกษาชั้น ม.6 หรือเทียบเท่า
- อายุไม่เกิน 25 ปี
บุคคลภายนอก (เพศหญิง)
- สำเร็จการศึกษาชั้น ม.6 หรือเทียบเท่า
- อายุไม่ต่ำกว่า 16 ปี ไม่เกิน 21 ปีบริบูรณ์นับถึ
งวันปิดรับสมัคร
- ส่วนสูง ไม่น้อยกว่า 160 ซม


กำหนดการณ์ต่าง ๆ มีดังนี้


ตัวอย่างนักเรียนนายร้อยตำรวจหญิง (นรต.66) ที่สำเร็จการฝึกอบรมแล้วครับ




วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ข่าวเกี่ยวกับการเปิดสอบนักเรียนนายสิบตำรวจ ประจำปี 2557

สำหรับผู้ที่มีความตั้งใจจะเข้ามาเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ (นสต.) ซึ่งอาจจะเป็นผู้ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษา
ในชั้นที่เปิดรับ คือ วุฒิ ม.6 หรือ ปวช. หรือเทียบเท่า หรืออาจจะเป็นผู้ทีเคยผ่านการสอบมาแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ อาจจะด้วยเหตุผลหลากหลายประการ เช่น เตรียมตัวไม่พร้อม ยังไม่มีประสบการณ์ในการสอบ เป็นต้น จะอย่างไรก็ตาม ไม่มีความล้มเหลว สำหรับผู้ที่มีความพร้อม มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยม 

ขอให้ผู้ที่มีความมุ่งมั่น เตรียมพร้อม ประสบความสำเร็จครับ 


นี้คือแผนการรับสมัครนักเรียนนายสิบตำรวจ ประจำปี 2557 จำนวนที่รับ 5,000 อัตรา กำหนดการที่จะเปิดรับสมัคร คาดว่าน่าจะประมาณเดือน พฤษภาคม พ.ศ.2557 และสอบประมาณเดือน กรกฎาคม พ.ศ.2557

โดยรับจากผู้มีวุฒิ ม.6 ปวช. หรือเทียบเท่า (ในเอกสารอาจจะระบุไว้ว่า ป.ตรี ซึ่งน่าจะผิดพลาด)
ซึ่งในส่วนนี้ก็ต้องรอติดตามต่อไปนะครับว่า จะเปิดรับอย่างไร คือ
1 สายป้องกันปราบปราม จำนวนทีรับ และจะที่สำคัญ จะรับผู้หญิงเข้ามาเป็นสายป้องกันปราบปรามหรือไม่
2 สายอำนวยการและสนับสนุน จะเปิดรับสมัครหรือไม่ 
สำหรับคุณสมบัติว่าจะกำหนดอย่างไร ก็เข้าไปดูรายละเอียดตรงนี้ครับ http://aboutthaipolice.blogspot.com/2013/07/2556_7.html 

หากมีความคืบหน้าใด ๆ จะนำความเคลื่อนไหวมาแจ้งให้ทราบต่อไปครับ

กองทุนบำเหน็จบำนาญ (กบข.) ที่ข้าราชการตำรวจควรทราบ

สำหรับผู้ที่รับราชการอย่างพวกเราจะเลี่ยงไม่ได้ คือ วันหนึ่งจะต้องถึงวันนั้น คือ วันเกษียรณอายุราชการ
หากไม่ลาออกซะก่อนนะครับ แม้หนทางจะยังอีกยาวไกล แต่การเตรียมการ เตรียมตัว การคาดการล่วงหน้า
ว่าต่อไปจะเจออะไรบ้าง จะได้ปฏิบัติตัวถูกครับ
กองทุนบำเหน็จบำนาญ (กบข.) เป็นของใหม่ (ซึ่งมีนานแล้ว) หลาย ๆ คนอาจจะไม่เข้าใจครบถ้วน
และที่ผ่านมา กองทุนนี้ก็สร้างภาพลักษณ์ให้พวกเราข้าราชการทั้งหลายพยายามมองให้เห็นถึงภาพลักษณ์
ความมั่นคงที่จะได้รับเมื่อเกษียรณอายุราชการ ดั่งนี้ ผู้เขียนจะได้นำตัวอย่างต่าง ๆ ว่า เพื่อน ๆ ข้าราชการตำรวจจะได้รับ
อะไรบ้าง จากกองทุน โดยเฉพาะพวกเรา ที่ถือว่าเข้ารับราชการตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.2540 ไม่มีสิทธิจะลาออก ก็ต้องยอมรับ
กับสิ่งที่เป็น และเรียนรู้ว่า กบข. คืออะไร แล้วจะให้อะไรกับเราบ้าง

ตัวอย่างทั้งหมดจะยกตัวอย่างจาก ด.ต. เสรี และ ร.ต.อ. เสรีฯ อายุราชการ 35 ปี มีเงินเดือน ณ วันเกษียรณ จำนวน 35220 บาท (ณ ปี พ.ศ.2556 ยศดาบตำรวจ และ ร้อยตำรวจเอก จะมีอัตราเงินเดือนขั้นสูงสุดตันที่ 35220 บาท เท่ากัน และทั้ง 2 ก็เงินเดือนเต็มขั้นมากว่า 5 ปี เพื่อความสะดวกในการคำนวณค่าเฉลี่ย 5 ปีสุดท้าย แต่สำหรับบางท่านที่ขั้นระดับสารัตรได้ ก็จะได้รับเงินเดือนขึ้นสูงสุดที่ 49,830 บาท ซึ่งการคิดคำนวณตัวเลขก็จะเปลี่ยนไปครับ)

สมาชิก กบข. ที่เลือกรับ บำนาญรายเดือน ก็คือ ผู้ที่ยังไม่ต้องการตัดขาดจากระบบราชการประสงค์จะเป็นข้าราชการบำนาญ

และรัฐยังอุดหนุนจุนเจือในด้านสวัสดิการต่าง ๆ ต่อไป เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียนบุตร สำหรับประโยชน์ที่ได้คือ

1 เงินก้อนจาก กบข. ประกอบด้วย เงินชดเชย เงินประเดิม เงินสะสม และเงินจากประโยชน์ตอบแทน เงินส่วนนี้เป็นเงินก้อนใหญ่ ก้อนแรกที่ทาง กบข. จัดให้ สามารถดูยอดเงินได้จากยอดใบแจ้งยอดจาก กบข. ที่แจ้งให้ทราบทุก ๆ สิ้นปี พร้อมกับหลักฐานเพื่อลดหย่อนภาษีครับ ซึ่งยอดเงินในส่วนนี้ก็ขึ้นกับอัตราที่เราได้ให้ทาง กบข. หักนำส่ง ว่านำส่งเดือนละเท่าไร เริ่มต้นที่ 3% - 10% คิดเป็นยอดเงินเท่าไร รัฐก็จะสมทบเท่านั้น ถ้าคิดในแง่ดี หากเราหักเยอะ รัฐก็จะสมทบเยอะ ยอดสะสมก็จะเยอะไปด้วย แต่บอกตามตรง ว่าไม่มั่นใจครับ ว่าเมื่อถึงวันนั้น กองทุนนี้จะยังมีชีวิตอยู่เพื่อพร้อมจะจ่ายเงินนั้นเราหรือเปล่า แต่ตามกฎหมายก็ต้องยอดให้หัก ในอัตราขั้นต่ำสุด หากเป็นเช่นนั้น โดยเฉลี่ยจะมียอดสะสมในส่วนนี้ประมาณ 2.0-2.5 ล้านบาทครับ

2 เงินบำนาญรายเดือน คำนวณจากการนำเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย คูณด้วยอายุราชการ (อายุราชการตามจริง แต่ต้องไม่เกิน 35 ปี และหารด้วย 50 จะได้จำนวนเงินบำนาญ แต่จำนวนเงินที่จะได้รับต้องไม่เกิน 70% ของเงินเดือน

กรณีบุคคลตามตัวอย่าง  (35220 บาท X 35 ปี) หาร 50 ผลที่ได้ 24,654 บาท แต่จะได้รับไม่เกิน 70% คือจำนวน 17,257 บาท

สรุป กรณีตามตัวอย่างจะได้รับเงินบำนาญรายเดือน ๆ ละ 17,257 บาท

3 เงินบำเหน็จดำรงชีพ จะได้ 15 เท่า ของบำนาญรายเดือน แต่ไม่เกิน 400000 บาท (สี่แสนบาทถ้วน) โดยแบ่งจ่าย 2 ครั้ง ครั้งแรกไม่เกิน 200000 บาท เมื่อปลดเกษียรณ และครั้งที่ 2 เมื่ออายุครบ 65 ปี จะจ่ายที่เหลือ

กรณีตามตัวอย่าง คือ บำนาญรายเดือน จำวน 17,257 X 15 เท่า เท่ากับ 258,855 บาท โดยจะแบ่งจ่าย 200,000 เมื่อปลดเกษียรณ และอีก 58,855 บาทเมื่อผ่านไป 5 ปี

4 เงินบำเหน็จตกทอด เมื่อผู้รับบำนาญถึงแก่กรรม ก็จะมีเงินบำเหน็จตกทอดแก่ทายาท อีก 30 เท่า ของบำนาญรายเดือน คำนวณได้เท่าไร ก็รับไปทั้งหมด โดยไม่แบ่งจ่าย ทายาทที่จะได้จะเป็นทายาทที่ผู้ตายได้แสดงเจตนาไว้

กรณีตามตัวอย่าง คือ ทายาทก็จะได้ 258,855 บาท

จะเห็นได้ว่าเมื่อปลดเกษียณไป (สำหรับผู้เขียนก็อีกเกือบ ๆ 30 ปี กว่าจะถึงวันนั้น) จำนวนเงินที่ได้รับ ณ วันนั้น หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินเดือนให้แตกต่างจากนี้ไปให้มากกว่านี้ เดือดร้อนแน่ ๆ ครับ เพราะวันนี้ข้าวแกงจานหนึ่ง ๆ ราคาก็ 35-40 บาท ต่อไปอีก 30 ปี ราคาคงไม่ใช่เท่านี้แน่นอน

หวังว่าบทความนี้อาจจะเพิ่มความรู้ความเข้าใจในกองทุนบำเหน็จบำนาญของข้าราชการ (กบข.) ให้กับท่านที่สนใจได้ไม่มากก็น้อยนะครับ

ขอบคุณแหล่งข้อมูล : http://www.policebd51online.com/gpf-for-bd.html

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

หน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จะเปิดรับสมัครบุคคลภายนอก วุฒิ ม.6/ปวช. เข้าเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน สายงานป้องกันปราบปราม บรรจุแต่งตั้งยังหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่าง ๆ ทั่วประเทศ หลาย ๆ ท่านอาจจะยังไม่มีความเข้าใจ หรือ สงสัยว่า หน่วยงานต่าง ๆ นั้น ๆ มีอำนาจหน้าทีอย่างไร มีพื้นที่ ขอบเขตอำนาจอยู่ ณ ตรงไหนบ้าง เพราะการสอบคัดเลือกครั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดอัตราให้แต่ละกองบัญชาการต่าง ๆ ตามความจำเป็นที่หน่วยงานนั้น ๆ ร้องขอมา ตามอัตราที่เปิดรับ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.), กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 - 9 (บช.ภ.1 - 9) และ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.)ซึ่งกองบัญชาการดังกล่าว เป็นกองบัญชาการหลักในงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ซึ่งเป็นกำลังหลักของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีกำลังพลจำนวนมากในการปฏิบัติหน้าที่ และในการเปิดรับสมัครนักเรียนนายสิบตำรวจ ประจำปี พ.ศ.2556 จำนวน 2773 อัตรานี้ จะให้ผู้สมัครได้เลือกหน่วยสอบ เพื่อสอบแข่งขัน และเมื่อได้รับการคัดเลือกแล้วจะต้องเข้ารับการการฝึกอบรม ณ ศูนย์ฝึกของกองบัญชาการนั้น ๆ และบรรจุแต่งตั้ง ณ หน่วยงานต้นสังกัดนั้น ๆ ด้วย ดังนั้น จึงมีความสำคัญในการเลือกสมัครสอบ ในการนี้จะได้แจ้งอย่างคร่าว ๆ เกี่ยวกับการแบ่งกองบัญชาการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แบ่งออกเป็น 9 กองบังคับการ (บก.) คือ บก.น.1-9 ครอบคลุมเขตในจังหวัดกรุงเทพมหานคร มีศูนย์ฝึกอบรมกลาง (บก.ฝรก.) เป็นศูนย์ฝึก ตั้งอยู่ ณ ศาลายา จังหวัดนครปฐม หน่วยงานหลัก ๆ ที่จะได้รับอัตราจัดสรรเข้ารับการบรรจุแต่งตั้ง เป็นธรรมเนียมปฏิบัติสำหรับนครบาลครับ คือ น้อง ๆ จะต้องเข้าไปเป็นกำลังสับเปลี่ยนกับรุ่นพี่ ในหน่วยงานหลัก ๆ คือ ควบคุมฝูงชน (คฝ.) และอารักขาและรักษาความปลอดภัย (อป.) ก็คือหน่วยปราบจราจล กับ หน่วยอารักขาและรักษาความปลอดภัย (วัง) ซึ่งจะไปทดแทนกำลังของรุ่นพี่ และรุ่นพี่ก็จะขยับขยายออกมายังตำแหน่งตาม สน.ต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาช้านานครับ น้อง ๆ จะได้ออกมา ต่อเมื่อมีกำลังอย่างนักเรียนนายสิบตำรวจรุ่นต่อ ๆ ไป เข้ามาทดแทนครับ
หน่วยงานที่เปิดรับ บช.ศ. รับจำนวน 550 อัตรา

2 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 มีเขตอำนาจอยู่ในเขตพื้นที่ปริมณฑล และภาคกลางบางส่วน ประกอบด้วยตำรวจภูธร (ภ.จว.) ภ.จว.ชัยนาท ภ.จว.นนทบุรี ภ.จว.ปทุมธานี ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ภ.จว.ลพบุรี ภ.จว.สมุทรปราการ ภ.จว.สระบุรี ภ.จว.สิงห์บุรี และ ภ.จว.อ่างทอง ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 1 อยู่ ณ จังหวัดสระบุรี เป็นหน่วยงานหลักในการฝึกอบรม

หน่วยงานที่เปิดรับ ภ.1 รับจำนวน 275 อัตรา

3 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 มีเขตอำนาจอยู่ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก ประกอบด้วยตำรวจภูธร (ภ.จว.) ภ.จว.จันทบุรี ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ภ.จว.ชลบุรี ภ.จว.ตราด ภ.จว.นครนายก ภ.จว.ปราจีนบุรี ภ.จว.ระยอง และ ภ.จว.สระแก้ว ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 2 (เขาน้อย) อยู่ ณ จังหวัดชลบุรี เป็นหน่วยงานหลักในการฝึกอบรม

หน่วยงานที่เปิดรับ ภ.2 รับจำนวน 275 อัตรา

4 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 มีเขตอำนาจอยู่ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อิสานตอนล่าง) ประกอบด้วยตำรวจภูธร (ภ.จว.) ภ.จว.ชัยภูมิ ภ.จว.นครราชสีมา ภ.จว.บุรีรัมย์ ภ.จว.ยโสธร ภ.จว.ศรีสะเกษ ภ.จว.สุรินทร์ ภ.จว.อำนาจเจริญ และ ภ.จว.อุบลราชธานี ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 (จอหอ) อยู่ ณ จังหวัดนครราชสีมา เป็นหน่วยงานหลักในการฝึกอบรม 5

หน่วยงานที่เปิดรับ ภ.3 รับจำนวน 165 อัตรา

5 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 มีเขตอำนาจอยู่ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อิสานตอนบน) ประกอบด้วยตำรวจภูร (ภ.จว.) ภ.จว.กาฬสินธุ์ ภ.จว.ขอนแก่น ภ.จว.นครพนม ภ.จว.บึงกาฬ ภ.จว.มหาสารคาม ภ.จว.มุกดาหาร ภ.จว.ร้อยเอ็ด ภ.จว.สกลนคร ภ.จว.หนองคาย ภ.จว.หนองบัวลำภู ภ.จว.อุดรธานี ภ.จว.เลย  ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 (มอดินแดง) อยู่ ณ จังหวัดขอนแก่น เป็นหน่วยงานหลักในการฝึกอบรม 
หน่วยงานที่เปิดรับ ภ.4 รับจำนวน 83 อัตรา

6 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 มีเขตอำนาจอยู่ในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ประกอบด้วยตำรวจภูธร (ภ.จว.) ภ.จว.น่าน ภ.จว.พะเยา ภ.จว.ลำปาง ภ.จว.ลำพูน ภ.จว.เชียงราย ภ.จว.เชียงใหม่ ภ.จว.แพร่ และ ภ.จว.แม่ฮ่องสอน  ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 5 อยู่ ณ จังหวัดลำปาง เป็นหน่วยงานหลักในการฝึกอบรม
หน่วยงานที่เปิดรับ ภ.5 รับจำนวน 192 อัตรา

7 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 มีเขตอำนาจอยู่ในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ประกอบด้วยตำรวจภูธร (ภ.จว.) ภ.จว.กำแพงเพชร ภ.จว.ตาก ภ.จว.นครสวรรค์ ภ.จว.พิจิตร ภ.จว.พิษณุโลก ภ.จว.สุโขทัย ภ.จว.อุตรดิตถ์ ภ.จว.อุทัยธานี และ ภ.จว.เพชรบูรณ์ ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 6 อยู่ ณ จังหวัดนครนครสวรรค์ เป็นหน่วยงานหลักในการฝึกอบรม
หน่วยงานที่เปิดรับ ภ.6 รับจำนวน 83 อัตรา

8 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 มีเขตอำนาจอยู่ในเขตพื้นที่ภาคตะวันตก ประกอบด้วยตำรวจภูธร (ภ.จว.) ภ.จว.กาญจนบุรี ภ.จว.นครปฐม ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ภ.จว.ราชบุรี ภ.จว.สมุทรสงคราม ภ.จว.สมุทรสาคร ภ.จว.สุพรรณบุรี และ ภ.จว.เพชรบุรี ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 7 (สนามจันทร์) อยู่ ณ จังหวัดนครนครปฐม เป็นหน่วยงานหลักในการฝึกอบรม
หน่วยงานที่เปิดรับ ภ.7 รับจำนวน 165 อัตรา

9 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 มีเขตอำนาจอยู่ในเขตพื้นที่ภาคใต้ต้นบน ประกอบด้วยตำรวจภูธร (ภ.จว.) ภ.จว.กระบี่ ภ.จว.ชุมพร ภ.จว.นครศรีธรรมราช ภ.จว.พังงา ภ.จว.ภูเก็ต ภ.จว.ระนอง และ ภ.จว.สุราษฎร์ธานี
ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 8 (ขุนทะเล) อยู่ ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นหน่วยงานหลักในการฝึกอบรม
หน่วยงานที่เปิดรับ ภ.8 รับจำนวน 275 อัตรา

10 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 มีเขตอำนาจอยู่ในเขตพื้นที่ใต้ตอนล่าง ประกอบด้วยตำรวจภูธร (ภ.จว.) ภ.จว.ตรัง ภ.จว.พัทลุง ภ.จว.สงขลา และ ภ.จว.สตูล
หน่วยงานที่เปิดรับ ภ.9 รับจำนวน 50 อัตรา

11 กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน  มีเขตอำนาจอยู่ในพื้นที่ทั่วประเทศ แบ่งออกเป็น 4 ภาค (แต่ละภาค จะแบ่งออกเป็นหลายหน่วย) คือ ภาค 1 เขตภาคกลางและภาคตะวันออก ภาค 2 เขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาค 3 เขตภาคเหนือ และภาค 4 ภาคใต้ และมีกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ตั้งอยู่ ณ บริเวณแถว ๆ สะพานควาย ศูนย์ฝึกอบรมของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนมีจำนวนมาก (กฝ.1-9) แบ่งออกทั่วประเทศเช่นกัน แต่ในการรับสมัครนักเรียนายสิบตำรวจนั้น น่าจะอบรมที่แปลงยาว (กฝ.1) และ ที่ จว.เพชรบุรี (กฝ.7) ซึ่งจะต้องดูรายละเอียดในการรับสมัครอีกครั้งหนึ่ง
หน่วยงานที่เปิดรับ บช.ตชด. รับจำนวน 660 อัตรา

รวมจำนวนที่เปิดรับนักเรียนนายสิบตำรวจ ประจำปี 2556 จำนวน 2,773 อัตรา

หมายเหตุ : สำหรับน้อง ๆ ที่จะสมัครสอบคัดเลือกเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ ประจำปี พ.ศ.2556 นี้ ต้องพิจารณาให้ดี ในหลาย ๆ อย่างครับ เช่น มีภูมิลำเนาที่ไหน ต้องการจะใช้ชีวิตที่ใด เพราะหากได้รับการคัดเลือกแล้ว ต้องบรรจุแต่งตั้งอย่างน้อย 4 ปี จึงจะมีสิทธิ์แต่งตั้ง (ย้ายตำแหน่ง) ไปยังตำแหน่งอื่นได้ อัตราที่เปิดรับก็สำคัญครับ เปิดรับมาก อัตราแข่งขันน้อย เปิดรับน้อย อัตราแข่งขันมาก แบบนี้เป็นต้น ในเบื้องต้นจากสถิติที่ผ่านมา ใน ตำรวจภูธรภาค 3 และ ภาค 4 จะมีผู้เข้าสมัครแข่งขันสูงมาโดยตลอด และครั้งนี้ก็น่าจะเช่นเดียวกัน แต่อัตราที่เปิดรับค่อนข้างน้อย จึงน่าจะเป็นที่หนักใจกับน้อง ๆ ที่จะสมัครเข้าแข่งขันครับ


วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การฝึกอบรมของนักเรียนนายสิบตำรวจ

หลังจากที่น้อง ๆ ได้ผ่านการคัดเลือกทุกอย่างแล้ว น้อง ๆ ต้องเข้ารับการฝึกอบรม ณ ศูนย์ฝึกที่กำหนดไว้ ณ ศูนย์ฝึกต่าง ๆ ส่วนระยะเวลาแตกต่างกันไป แล้วแต่ละหลักสูตร ซึ่งที่ผ่านมา มีจำนวนหลายหลักสูตรด้วยกัน เช่น
หลักสูตรนักเรียนนายสิบตำรวจ ระยะเวลา 1 ปี
หลักสูตรนักเรียนนายสิบตำรวจ (หลักสูตรเร่งรัดลง 3 จว.) 6 เดือน
หลักสูตรนักเรียนนายสิบ (ทหารเกณฑ์) 4 เดือน
หลักสูตร กอป. , กปป, (ปริญญาตรี) 5 เดือน เป็นต้น
ซึ่งแต่ละหลักสูตร มีวัตถุประสงค์แตกต่างกัน เช่น หลักสูตร นักเรียนนายสิบตำรวจ (นสต.) กับ หลักสูตรนักเรียนนายสิบตำรวจ (หลักสูตรเร่งรัดฯ) ก็ดำเนินการสอบมาพร้อมกัน แต่กำหนดระยะเวลาไม่เท่ากัน และได้มีการให้มีการทำบันทึกสมัครใจ สำหรับผู้ที่สมัครใจเข้ารับการฝึกและเข้ารับการบรรจุแต่งตั้ง ณ 3 จว.ชายแดนใต้ ซึ่งมีกำหนดระยะเวลาในการฝึกแตกต่างกัน ความเข้มข้นในการฝึกก็ย่อมไม่เท่ากัน เนื่องจากวัตถุประสงค์ ความต้องการในการใช้กำลังพลในภาคส่วนดังกล่าว มีความจำเป็นเร่งด่วน
แต่ไม่ว่าจะฝึกระยะเวลาเท่าไร น้อง ๆ ต้องพร้อมเต็มที่สำหรับการฝึก

สำหรับการฝึกตามหลักสูตรนักเรียนนายสิบตำรวจ (นสต.)นั้น แบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ คือ
1 ภาควิชาการและภาคการฝึก ประมาณ 9 เดือน จะมีการฝึกอบรมความรู้ทางด้านวิชาการที่จำเป็นในการทำงาน และจะควบคู่ไปด้วยการฝึกระเบียบวินัย การฝึกแบบตำรวจต่าง ๆ
2 ภาคสนาม (หลักสูตรชัยยะ หรือหลักสูตรพิทักษ์สันติ) ประมาณ 2 เดือน จะเป็นการฝึกภาคสนาม ไม่ว่าจะเป็นการฝึก ณ ศูนย์ฝึกอบรมส่วนหนึ่ง ณ สถานที่ที่กำหนดไว้ส่วนหนึ่ง และครั้งสุดท้ายจะเข้ารับการฝึก ณ สถานที่จริง ระยะเวลาประมาณ 3-5 วัน
3 ฝีกงาน ประมาณ 1 เดือน นักเรียนจะได้ใช้ความรู้ ความสามารถต่าง ๆ ที่ได้ฝึกอบรมมา เข้าทำงานจริง กับสถานที่จริง กับตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่จริง ๆ น้อง ๆ จะได้รับการฝึกจากรุ่นพี่ ในงานต่าง ๆ ซึ่งอาจจะมีการหมุนเวียน เปลี่ยนงาน ในห้วงระยะเวลาที่น้อง ๆ เข้ารับการฝึกงานครับ

ในการนี้ขอนำภาพบรรยากาสในการฝึกอบรมตลอดระยะเวลามาให้ได้รับชมกันครับ

ภาพบรรยากาศในการฝึกช่วงแรก ๆ

บรรยากาศการฝึกอบรมภาควิชาการและการฝึกระเบียบต่าง ๆ

การฝึกภาคสนาม (หลักสูตรชัยยะ)

ขอบคุณ : http://www.policebd51online.com/ สำหรับภาพบรรยากาศในการฝึกอบรมครับ

วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

คุณสมบัติ ของนักเรียนนายสิบตำรวจ 2557


คุณสมบัติทั่วไปและคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งของผู้ที่จะสมัครเข้าเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ สายป้องกันปราบปราม ประจำปี พ.ศ.2557
1 เป็นบุคคลภายนอก เพศชาย มีสถานะโสด
กล่าวคือ ไม่เป็นข้าราชการตำรวจในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากประสงค์จะสมัครสอบ ต้องลาออกก่อนวันสมัครสอบครับ สถานะโสด คือ ยังไม่ได้ได้แต่งงานตามกฎหมาย หากแต่งงานแล้ว หรือมีบุตรแล้ว แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ก็ไม่ห้ามครับ
2 มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ และไม่เกินยี่สิบเจ็ดปีบริบูรณ์ นับถึงวันปิดรับสมัคร
3 ร่างกายต้องสูงไม่น้อยกว่า 160 ซ.ม. และรอบอกไม่น้อยกว่า 77 ซ.ม.
4 เป็นผู้สำเร็จการศึกษาได้รับประกาศนียบัติระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเท่า โดยต้องสำเร็จการศึกษาและได้รับอนุมัติวุฒิการศึกษาจากสถานศึกษานั้น ๆ ภายในวันปิดรับสมัคร
5 คุณวุฒิการศึกษาที่ใช้ในการสมัครคัดเลือกดังกล่าว ต้องเป็นคุณวุฒิการศึกษาที่ ก.ตร. หรือสำนักงาน ก.พ. ได้รับรองไว้ และถ้ามีวุฒิสูงกว่าที่กำหนดจะนำมาเรียกร้องสิทธิใด ๆ ไม่ได้
กล่าวคือ เช่นถ้ามีคุณวุฒิ ปวส. ปริญญาตรี หรือสูงกว่า จะนำมาเรียกร้องสิทธิต่าง ๆ เช่น การครองยศ ระดับเงินเดือน หรืออื่น ๆ ไม่ได้ครับ
6 มีคุณสมบัติทั่วไป และไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนด
คุณสมบัติทั่วไป ที่สำคัญ เช่น
-  สัญชาติไทยโดยการเกิด
-  เป็นผู้เลื่อมใสในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
-  ไม่เป็นข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น
-  ไม่เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก (คือ ต้องเคยจำคุกจริง ๆ มาแล้ว) ยกเว้นแต่โทษสำหรับความผิดที่กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
-  ไม่เป็นผู้เคยกระทำการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการ
  ไม่เป็นผู้ที่มีข้อผูกพันตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร คือ ทหารกองประจำการ (ทหารเกณฑ์) ผู้ที่ได้รับหมายเรียกเข้ารับราชการกองประจำการในปีนั้น ๆ สำหรับผู้ที่มีภาระทางทหาร มีดังนี้
     - ผู้ที่อยู่ระหว่างผ่อนผันเข้ารับการตรวจเลือกเพื่อรับราชการทหาร หรือผ่อนผันเข้ารับราชการทหารกองประจำการ (ทหารเกณฑ์)
     - ผู้ที่ได้รับการตรวจเลือกเป็นทหารเกณฑ์ตามขั้นตอนทางทหาร และจะต้องเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการ (ทหารเกณฑ์) ในเดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2556 (ผลัด 2) เป็นต้นไป
     - ผู้ที่รับราชการเป็นทหารกองประจำการ (ทหารเกณฑ์) และจะปลดจากองประจำการหหลังวันที่ 31 ตุลาคม 2556
     - ผู้ที่อายุครบเกณฑ์เข้ารับการตรวจเลือกทางทหารที่ไม่ได้เข้ารับการตรวจเลือกทางทหารตามกำหนด
      อนึ่ง สำหรับผู้ที่สำเร็จการฝึกวิชาทหาร (รด.) หรือผู้ที่มีอายุระหว่าง 18 - 20 ปี ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนทหารกองเกินแล้ว (มีหลักฐานทางทหารเป็น สด.9) และยังไม่ได้ใช้สิทธิผ่อนผันเข้ารับการตรวจเลือกเพื่อเข้ารับราชการทหาร สามารถสมัครสอบได้
      ทังนี้ สำหรับทหารกองประจำการ (ทหารเกณฑ์) ที่จะปลดจากกองประจำการ (พ้นจากการเป็นทหารเกณฑ์) ในวันที่ 1 พ.ย.2556 ให้มีสิทธิสมัครสอบได้ เนื่องจากตามประกาศรับสมัครนี้ จะได้รับการบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจในวันที่ 1 พ.ย.2556 เป็นต้นไป
-  ไม่เป็นผู้มีสายตาผิดปกติ ตรวจแบบเสนลเลน (ปกติ 6/6)
  ไม่เป็นผู้มีสายตาบอดสี
  ไม่เป็นผู้มีแผลเป็น ไฝ ปาน รอยสัก หูด หรือซีสต์ ที่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายซึ่งมีขนาดใหญ่หรือมากจนและดูน่าเกลียด ก็คือ การตรวจสายตา การตรวจลักษณะทางกายภาพของร่างกายแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจจะเป็นผู้ตรวจ ความเห็นของแพทย์ถือเป็นที่สุดครับ  


6 พระภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวชในศาสนาใด ๆ ทางราชการไม่รับสมัครสอบและไม่อนุญาตให้เข้าสอบ ตามคำสั่งมหาเถรสมาคม ฉบับลงวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2538

วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ข่าวล่าสุด เปิดรับนักเรียนนายสิบ ประจำปี 2556


ข่าวล่าสุด...

ร่างแผนการปฏิบัติงานในการสมัครสอบคัดเลือกหรือสอบแข่งขันบุุคคลภายนอกผ๔ู้มีวุฒิประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเท่า เพื่อบรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน หรือชั้นพลตำรวจ ประจำปี พ.ศ. 2556

กระบวนการขั้นตอนที่สำคัญ
1. ออกประกาศและประกาศรับสมัคร วันที่ 12 ก.ค.2556
2. รับสมัครทางอินเตอร์เนท 19 ก.ค. - 13 ส.ค.2556
3. ประกาศรายชื่อผู้เข้าสอบ 21 ส.ค.2556
4.ออกปัญหาข้อสอบ 27 ส.ค. - 1 ก.ย.2556
5 สอบข้อเขียน 1 ก.ย.2556
6.ประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านข้อเขียน 12 ก.ย.2556
...
ส่งตัวเข้าฝึกอบรม  1.พ.ย.2556

จำนวนที่รับ 1593 อัตรา
หน่วยงานที่เปิดรับ บช.น. บช.ภ.1 - 9 และ ศชต.

รายละเอียดต่าง ๆ ต้องรอประกาศที่เป็นทางการจากกองการสอบ กองบัญชาการศึกษาต่อไปครับ

หมายเหตุ : เอกสารร่างแผนฯ



ยอดที่เปิดรับ แต่ละ ภาค 




วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

อัตราเงินเดือน,ค่าตอบแทนต่าง ๆ หากน้อง ๆ ได้ผ่านการคัดเลือก

สำหรับน้อง ๆ ที่จะสมัครสอบเข้ามาเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ ประจำปี พ.ศ.2556 อาจอยากทราบว่า เมื่อเข้ามาแล้ว น้อง ๆ จะมีศักดิ์ มีสิทธิ์อย่างไรบ้าง ผมจะขออธิบายเป็นข้อ ๆ ดังนี้ครับ
ตำแหน่งอำนวยการและสนับสนุน
เมื่อน้อง ๆ ผ่านการคัดเลือกและได้รับการบรรจุแต่งตั้งแล้ว จะได้รับการบรรจุแต่งตั้งเป็น ผู้บังคับหมู่ งาน(ตำแหน่งที่เลือก) ยศ สิบตำรวจตรี หรือ สิบตำรวจตรีหญิง แล้วแต่กรณี และเข้าทำงานทันทีเมื่อคำสั่งบรรจุแต่งตั้งมีผล ทั้งนี้การฝึกอบรมจะต้องรอกำหนดการในการเข้าฝึกอีกครั้งหนึ่ง เงินเดือนจะได้รับ ดังนี้
1       ระดับ ป.ขั้น 4.5 จำนวนเงิน 5,690 บาท กรณีบรรจุจากวุฒิ ม.และ
2       ระดับ ป.ขั้น จำนวนเงิน 6,470 บาท กรณีบรรจุจากวุฒิ ปวช.
ทั้ง กรณีดังกล่าวจะได้รับค่าครองชีพจำนวน 1500 บาท (จะได้รับไปจนกว่า เมื่อรวมกับเงินเดือนแล้ว ไม่เกิน 12,285 บาท) อีกกรณีหนึ่ง
ตำแหน่งป้องกันปราบปราม
เมื่อน้อง ๆ ผ่านการคัดเลือกและได้รับการบรรจุแต่งตั้งแล้ว จะได้รับการบรรจุแต่งตั้งเป็น ผู้บังคับหมู่ งานป้องกันปราบปราม (ตำแหน่งที่เลือก) ยศ สิบตำรวจตรี เมื่อผ่านการคัดเลือกแล้ว จะต้องเข้าอบรม ณ ศูนย์ฝึกอบรมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด เป็นระยะเวลา ปี โดยในระหว่างการฝึกอบรม น้อง ๆ จะได้รับการบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจ (เป็นข้าราชการตั้งแต่ฝึกอบรม) ชั้นพลตำรวจ ได้รับเงินเดือน ระดับ พ.ขั้น จำนวนเงิน 1,360 บาท และเมื่อผ่านการฝึกอบรมแล้ว จะได้รับเงินเดือน ระดับ ป.ขั้น 8.5 จำนวนเงิน 6,970 บาท และได้รับค่าครองชีพจำนวน 1500 บาท เช่นเดียวกับตำแหน่งอำนวยการ แต่น้อง ๆ สายป้องกันปราบปราม จะมีสิทธิ์ได้รับเงินเพิ่มอื่น ๆ หากน้อง ๆ มีตำแหน่ง ดังต่อไปนี้
1. ระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ด้านป้องกันปราบปราม ด้านสืบสวน และด้านจราจร พ.ศ. 2548
สารวัตร                 เดือนละ 4000 บาท
รองสารวัตร            เดือนละ 3500 บาท
ผู้บังคับหมู่             เดือนละ 3000 บาท
2. ระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตำแหน่งผู้ปฏิบัติงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ พ.ศ. 2550
สารวัตร                 เดือนละ 4000 บาท
รองสารวัตร            เดือนละ 3500 บาท
ผู้บังคับหมู่             เดือนละ 3000 บาท
3. ระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษสำหรับตำแหน่งพนักงานสอบสวน พ.ศ. 2553
พนักงานสอบสวน                           เดือนละ 12000 บาท
พนักงานสอบสวนชำนาญการ             เดือนละ 14400 บาท
พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ      เดือนละ 17300 บาท
พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ           เดือนละ 20800 บาท
พนักงานสอบสวนเชี่ยวชาญ              เดือนละ 25000 บาท
พนักงานสอบสวนเชี่ยวชาญพิเศษ       เดือนละ 30000 บาท

รายละเอียดเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมที่เวปบอร์ดครับ
http://www.policebd51online.com/forum/index.php/topic,2429.0.html


วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ข่าวลือ เกียวกับการรับสมัครสอบฯ

ช่วงนี้ีมีข่าวลืออกมาเยอะครับ เกี่ยวกับการรับสมัครสอบนักเรียนนายสิบตำรวจ ปี พ.ศ.2556
และมีการสร้างเว๊ปไซต์ขึ้นมาหลอก ๆ จากผู้ได้รับประโยชน์จากข่าวดังกล่าว เป็นต้นว่า สำนักติวต่าง ๆ สำนักพิมพ์ที่พิมพ์หนังสือเกี่ยวกับการสอบออกมาจำหน่าย ว่ามีประกาศรับสมัครแล้ว ซึ่งกองการสอบได้แจ้งมาแล้วครับว่ายังไม่มีประกาศใด ๆ ออกจากกองการสอบ ขอให้น้อง ๆ ที่รอข่าวเกี่ยวกับการรับสมัครสอบ จงใช้ความระมัดระวังในการบริโภคสื่อนะครับ
หากมีข้อสงสัยใด ๆ สามารถตรวจสอบประกาศรับสมัครอย่างเป็นทางการ จากกองการสอบ กองบัญชาการศึกษา ที่ www.policeadmission.org/‎ 
หรือตรวจสอบได้จากบล็อกนี้ครับ

วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เตรียมตัว พร้อมเข้าเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ ปี พ.ศ.2557

น้อง ๆ ที่มีคุณสมบัติพร้อม และพร้อมที่จะก้าวมาเป็นข้าราชการตำรวจ ไม่ต้องรีรอแล้วครับ เตรียมตัวให้พร้อม ทั้งร่างกาย จิตใจ และความพร้อมในการสอบแข่งขัน ซึ่งสำคัญมาก จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ เก่งแต่สภาพร่างกายไม่พร้อม ก็ไม่สามารถไปต่อ เป็นนักกีฬาพร้อมทุกอย่าง แต่ไม่อ่านหนังสือสำหรับเตรียมตัวสอบ ก็ไม่สามารถไปต่อได้เช่นกัน ดั่งนี้พี่จะแนะนำวิธีการในการเตรียมตัว เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ ประจำปี พ.ศ.2557
1. เตรียมความพร้อมด้านวิชาการ 
รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง ตำราพิชัยสงครามของซุนวูกล่าวไว้ ต้อง ๆ ต้องรู้ว่าเนื้อหาวิชาอะไรที่จะใช้ในการสอบแข่งขัน (ซึ่งพี่ได้กล่าวไว้ในหัวข้อด้านล่างนี้แล้ว) หนึ่งข้อ คือหนึ่งคะแนนเท่ากัน จะเน้นหนักไปในด้านใดด้านหนึ่ง ไม่ได้ ยกเว้นแต่สำหรับบางคน ที่ไม่ไหวจริง ๆ เลือกตามลำดับความถนัด
เช่น บางคนภาษาอังกฤษ ไม่ได้เลย แต่ต้องใช้ เพราะต่อไปตำรวจต้องเป็นภาษา ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาของประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อเปิด AEC ทุกหน่วยงาน รวมทั้งตำรวจต้องเปลี่ยนวิธีการใหม่ ๆ หมด 
2. ควบคู่กับการเตรียมความพร้อมด้านร่างกาย
ในระหว่างที่เตรียมความพร้อมทางด้านวิชการ ก็ต้องเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกายควบคู่กันไปด้วย คือหมั่นออกกำลังกาย ซึ่งจะมีการทดสอบด้านพละศึกษาด้วย คือ การวิ่งระยะทาง 1000 เมตร และการว่ายน้ำระยะ 25 เมตร อันนี้สำคัญสำหรับน้อง ๆ ที่ว่ายน้ำไม่เป็น แต่อยากเป็นตำรวจ ต้องว่ายน้ำเป็น อย่างคิดว่า เดี๋ยวไปหัดเอาพอเป็น ก็ได้ จะบอกว่า ตกมาเยอะแล้วครับ แบบนี้เขาเรียกว่า ตายน้ำตื้นครับ
ภาคพละศึกษาสำหรับหลักสูตรนักเรียนนายสิบ ถือว่าโหดมาก สำหรับคนไม่ฟิต แต่สบาย สำหรับผู้ที่พร้อมครับ
3. ดูแลตัวเองให้ดี
 3.1รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี อย่างทำในสิ่งที่ สตช.ตั้งข้อห้ามใว้ในการรับเข้าเป็นตำรวจ ตรงนี้ก็คือ 
การตรวจประวัติ  ผู้ที่จะมาเป็นผู้รักษากฎหมาย ต้องไม่มีประวัติด่างพร้อยติดตัวมา ประวัติการโดนคดีต่าง ๆ ไม่ว่าศาลจะพิพากษาให้จำคุกหรือรอการลงโทษ ในความผิดที่กระทำโดยเจตนา ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หรือความผิดอื่น ๆ แม้บางครั้งความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็มีผลทำให้ตกการตรวจสอบประวัติ ซึ่งถ้ามีโอกาสดี ๆ จะนำตัวอย่างดังกล่าวมาให้ดูครับ
 3.2 ห้ามสักตามร่างกาย เพราะถ้ามีรอยสัก สตช. จะไม่รับเข้าเป็นตำรวจ ซึ่งจะมีผลทำให้น้อง ๆ ไม่ผ่านการตรวจร่างกาย แต่เรื่องดังกล่าวสามารถแก้ไขได้ เพราะทุกวันนี้วิทยาการทันสมัย สามารถลบรอยสักได้ ตามสถาบันเสริมความงามต่าง ๆ น้อง ๆ จะได้รู้ว่า บางทีความคึกคะนองเล็ก ๆ น้อย ๆ เสียค่าสักแค่หลักร้อย แต่ทำไมเวลาเอาออก หมดเป็นหมื่น ซึ่งนั่นก็จะเป็นอุทธาหรณ์สอนน้องต่อไป
 3.3 สายตาสั้น ทุกวันนี้เด็ก ๆ สายตาสั้นกันเยอะ เพราะใช้ชีวิตกับหน้าคอมพิวเตอร์ การใช้สายตาผิดรูปแบบ  สตช. ไม่รับผู้มีสายตาสั้น ตามกำหนด หากน้อง ๆ ๆ มีความสงสัยว่า สายตาปกติหรือเปล่าก็สามารถไปตรวจสอบได้ที่ร้านตรวจสอบสายตาทั่วไปได้ หากผิดปกติ หรือสายตาสั้น ถือว่าหมดสิทธิ์ครับ แต่ถ้ามีใจรักจะเข้ามาเป็นตำรวจจริง ๆ สามารถแก้ไขได้ คือ แก้ด้วยวิธีการทำเลสิก การทำเลสิกนี้ ต้องใช้เวลา ต้องรู้ตัวแต่เนิ่น ๆ  ครับ 

เตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่งครับ

หมายเหตุ : นักเรียนนายสิบตำรวจ ปี 2557 สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องดำเนินการเปิดรับสมัครบุคคลภายนอก เข้ามาเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ เพื่อเข้าอบรมในศูนย์ฝึกอบรมต่าง ๆ ทั่วประเทศ ต่อจากนักเรียนนายสิบตำรวจ 2556 ซึ่งจะสำเร็จการฝึกอบรมฯ ในวันที่ 1 พ.ย.2557 ซึ่งมีกระบวนการในการดำเนินการ คาดว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย กองบัญชาการศึกษาจะดำเนินการรับสมัครประมาณช่วงเดือน พ.ค.2557 ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ข่าวเปิดรับสมัครข้าราชการตำรวจ ปี พ.ศ.2557

สำหรับน้อง ๆ ที่เตรียมตัวจะสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจชั้นประทวน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จะเปิดรับสมัครพร้อมกันทั่วประเทศ ตามกองบัญชาการต่าง ๆ 
(บช.ภ.1-9, บช.น. และ บช.ตชด.) ในสายงาน ดังต่อไปนี้

1 ป้องกันปราบปราม
คุณสมบัติ 
เพศชาย 
อายุตั้งแต่ 18-27 ปีบริบูรณ์ ส่วนสูง 160 ซม. รอบอก 77 ซม.ขึ้น
การศึกษา ม.6 หรือ ปวช.

2 สายอำนวยการและสนับสนุน
คุณสมบัติ
เพศชาย หรือเพศหญิง
อายุตั้งแต่ 18 - 35 ปีบริบูรณ์ ส่วนสูง 160 ซม. ขึ้น เพศหญิง 150 ซม.ขึ้น
การศึกษา ม.6 หรือ ปวช.
ทั้งนี้ รายละเอียดเพิ่มเติม ดู ณ วันประกาศรับสมัคร

แต่สิ่งที่ไม่ต้องรอ คือ อ่านหนังสือรอได้เลยครับ

สายป้องกันปราบปราม เตรียมตัวอ่านในกลุ่มวิชานี้ได้เลย
1 ความรู้ความสามารถทั่วไป 
คือ วิชาคณิตศาสตร์ ส่วนใหญ่ การคิดหาเหตุผลต่าง ๆ จำนวน 25 ข้อ
2 วิชาภาษาไทย จำนวน 25 ข้อ
3 วิชาภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) จำนวน 30 ข้อ
4 เทคโนโยลีสารสนเทศเบื้องต้น (คอมพิวเตอร์) 20 ข้อ
5 กฎหมายที่ประชาชนควรรู้ 10 ข้อ 
5 สังคม จริยธรรมและวัฒนธรรม 10 ข้อ
รวม 120 ข้อ เวลาในการทำข้อสอบ 2 ชม.30 นาที 
(เฉลี่ยมีเวลาทำข้อสอบ ข้อละ 1 นาที 25 วินาที 1 ข้อ มีค่า 1 คะแนนเท่ากัน เลือกทำวิชาที่ถนัดก่อน หรือแล้วแต่ความถนัดครับ)

สายอำนวยการและสนับสนุน เตรียมตัวอ่านในกลุ่มวิชานี้ครับ
1 ความรู้ความสามารถทั่วไป
 1.1 ความรู้ความสามารถทั่วไป 20 ข้อ
 1.2 ภาษาไทย 20 ข้อ
2 ความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง 20 คะแนน
 2.1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 20 คะแนน
 2.2 ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ 20 คะแนน
 2.3 ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) 20 คะแนน
 2.4 สังคม วัฒนธรรมและจริธรรม 20 คะแนน
รวม 120 ข้อ เวลาในการทำข้อสอบ 2 ชม.30 นาที 

เตรียมตัวให้พร้อม 
ติดตามข่าวการสอบได้ที่นี่ครับ

วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ตำรวจ ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน


สำหรับผู้ที่สนใจจะเข้ามาเป็นข้าราชการตำรวจ หรือ ที่เรียกว่า “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” นั้น บางคนอาจจะมองว่าอาชีพตำรวจนั้นเป็นอาชีพที่ได้ใส่เครื่องแบบ เทห์ สมาร์ท ได้จับโจรผู้กระทำความผิด หรือบางคนอาจจะมองว่าเป็นอาชีพหนึ่ง ซึ่งเป็นข้าราชการ มีความมั่นคงสูง นั่นเป็นเพียงมุมมองด้านหนึ่ง ซึ่งไม่รอบด้าน ต้องอาศัยรุ่นพี่คอยให้คำแนะนำ เพราะการจะก้าวเข้ามาสู่การเป็น 
“ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” นั้นจะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง ลำดับแรก ต้องมีใจรักในความเป็นตำรวจ ตำรวจต้องพบปะกับประชาชน ตำรวจต้องจับกุมผู้กระทำความผิด เช่นความผิดตามกฎหมายจราจร อาจจะทำให้ประชาชนไม่พอใจ ก่นด่าตำรวจ 
เป็นจำนวนมาก อย่างนี้ ถ้าไม่มีใจรักแล้ว อยู่ยาก แต่ก่อนจะมาเป็นตำรวจได้นั้น น้อง ๆ จะต้องมีความรู้ ความเข้าใจในความเป็นตำรวจก่อน ซึ่งผมจะได้อธิบายต่อไป


ตัวอย่างนี้เป็นข้าราชการตำรวจหญิงสังกัดกองปราบปราม


ความหมายของตำรวจ  ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 “ข้าราชการตํารวจหมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามพระราชบัญญัตินี้โดยได้รับเงินเดือนจากเงินงบประมาณหมวดเงินเดือนในสํานักงานตํารวจแห่งชาติและให้หมายความรวมถึงข้าราชการในสํานักงานตํารวจแห่งชาติซึ่งสํานักงานตํารวจแห่งชาติแต่งตั้งหรือสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ราชการตํารวจโดยได้รับเงินเดือนจากส่วนราชการรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐด้วย

อำนาจหน้าที่ของตำรวจ พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ มาตรา 6 บัญญัติไว้ว่า
สํานักงานตํารวจแห่งชาติเป็นส่วนราชการมีฐานะเป็นนิติบุคคลอยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรีและมีอํานาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) รักษาความปลอดภัยสําหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินีพระรัชทายาท ผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์พระบรมวงศานุวงศ์ผู์แทนพระองค์และพระราชอาคันตุกะ
(2) ดูแลควบคุมและกํากับการปฏิบัติงานของข้าราชการตํารวจซึ่งปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
(3) ป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดทางอาญา
(4) รักษาความสงบเรียบร้อยความปลอดภัยของประชาชนและความมั่นคงของราชอาณาจักร
(5) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกําหนดให้เป็นอํานาจหน้าที่ของข้าราชการตํารวจหรือสํานักงานตํารวจแห้งชาติ
(6) ช่วยเหลือการพัฒนาประเทศตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
(7) ปฏิบัติการอื่นใดเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้การปฏิบัติการตามอํานาจ
หน้าที่ตาม (1) (2) (3) (4) หรือ (5) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ


หน้าที่หลักคือให้บริการประชาชน

ใช้เทคโนโลยีในการจับกุมผู้กระทำความผิด



เมื่อเห็นดั่งนี้แล้วก็ย่อมเข้าใจแล้วว่า ตำรวจเป็นข้าราชการหน่วยงานหนึ่งซึ่งมีอำนาจตาม 6 ข้อที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ แต่ก่อนจะเข้ามาเป็นตำรวจ น้อง ๆ ต้องทราบว่า ตำรวจไทยนั้น มีจำนวนมากกว่า 2 แสนนาย ซึ่งแบ่งออกเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน และข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร มีการกำหนดยศ กำหนดตำแหน่งไว้

ข้าราชการตำรวจชั้นประทวน จะมียศตั้งแต่ พลตำรวจ (ปัจจุบันไม่มีแล้ว) สิบตำรวจตรี สิบตำรวจโท สิบตำรวจเอก จ่าสิบตำรวจ และดาบตำรวจ


ข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร จะมียศตั้งแต่ ร้อยตำรวจตรี ร้อยตำรวจโท ร้อยตำรวจเอก พันตำรวจตรี พันตำรวจโท พันตำรวจเอก พลตำรวจตรี พลตำรวจโท พลตำรวจเอก




สำหรับน้อง ๆ หรือผู้ปกครอง ที่สนใจจะให้บุตรหลานท่านเข้ารับราชการตำรวจ ปัจจุบันสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเปิดรับบุคคลภายนอกเข้าไปข้าราชการตำรวจ ทางหลัก ๆ คือ

1. เข้าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ กลุ่มนี้จะเปิดรับสมัครพร้อม ๆ กลุ่มทหารเหล่าต่าง ๆ คือทหารบก ทหารเรือ และทหารอากาศ จะรับบุคคลชายอายุตั้งแต่ 14 – 17 ปี วุฒิการศึกษา ม.3 ยอดรับแต่ละปี ประมาณ 200 คน เข้าศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหาร เป็นระยะเวลา 3 ปี และเข้าเรียนที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อีก 4 ปี สำเร็จการศึกษา ประดับยศ ว่าที่ร้อยตำรวจตรี เข้ารับราชการในสังกัดต่าง ๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อไป



2. เป็นเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ กลุ่มนี้จะเปิดรับจำนวนมาก โดยจะเปิดรับสมัครประมาณเดือน ก.ค.-ส.ค. โดยจะแบ่งออกเป็น 2 สายงานหลัก ๆ คือ งานป้องกันปราบปราม และงานอำนวยการและสนับสนุน


คุณสมบัติ สายงานป้องกันปราบปราม
เพศชาย
วุฒิการศึกษา ม.6 หรือ ป.ว.ช.
อายุตั้งแต่ 18 – 27 ปีบริบูรณ์
ส่วนสูงไม่ต่ำกว่า 160 ซม.
ผ่านการเกณฑ์ทหาร หรือ จบ รด.ปี 3
คุณสมบัติ สายงานอำนวยการหรือสนับสนุน
เพศชาย หรือ เพศหญิง
วุฒิการศึกษา ม.6 ป.ว.ช. หรือเทียบเท่า
อายุตั้งแต่ 18 – 35 ปีบริบูรณ์
เพศชาจต้องผ่านการเกณฑ์ทหาร หรือ จบ รด.ปี 3
สำหรับการทดสอบ จะแบ่งออกเป็น 2 ภาค คือ
1 ภาคความรู้ความสามารถ จะสอบในวิชา ดังต่อไปนี้
- ความสามารถทั่วไป
- ภาษาไทย
- ภาษาต่างประเทศ ภาษาอังกฤษ
- งานเทคโนโลยีสารสนเทศเบื้องต้น
- จริยธรรมและกฎหมายที่ประชาชนควรรู้
2 ภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง
ทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย แบ่งเป็น
 - วิ่ง ระยะทาง 1000 เมตร ใช้เวลาไม่เกิน 4 นาที 50 วินาที ถือว่าผ่าน
 - ว่ายน้ำ ระยะทาง 25 เมตร ใช้เวลาไม่เกิน 30 วินาที ถือว่าผ่าน
 - สอบสัมภาษณ์ จะเป็นกำรประเมินบุคคลเพื่อพิจารณาความเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ ที่จะแต่งตั้งจำกพฤติกรรมที่ปรากฏ ซึ่งก็จะมีแค่ ผ่าน กับ ไม่ผ่าน ส่วนมากคณะกรรมการจะไม่ให้ตกสัมภาษณ์ ยกเว้นแต่จะแบบว่าพูดจาไม่รู้เรื่อง หรืออย่างไรก็ตาม แต่ที่ผ่านมา มีไม่กี่รายที่ตกสัมภาษณ์
การตรวจร่างกายจากคณะกรรมการแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ผู้ที่ไม่เป็นโรคหรืออาการตำมที่กำหนดไว้ ถือว่า ผ่าน

   
                                                ตัวอย่างประกาศรับสมัคร ประจำปี พ.ศ.2555

อันนี้เป็นรายละเอียดอย่างคร่าว ๆ น้อง ๆ ต้องทำศึกษา ทำความเข้าใจในหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งมีมากมาย ซึ่งบางครั้งน้อง ๆ ต้องปฏิบัติตัวเอง ไม่ให้ผิดหลักเกณฑ์ เช่น ห้ามสักผิวหนัก ห้ามเจาะหู เป็นต้น น้อง ๆ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.policeadmission.com
เมื่อน้อง ๆ ผ่านการคัดเลือก โดยวิธีการสอบคัดเลือก น้อง ๆ ที่สอบคัดเลือกเข้ามาในสายงานป้องกันปราบปราม ต้องเข้ารับการฝึกอบรม ณ ศูนย์ฝึกอบรมตามภาคต่าง ๆ ที่น้องสมัครเข้ามา เป็นระยะเวลา 1 ปี ระหว่างฝึกอบรมจะได้รับเงินเดือน ๆ ละ 1,360 บาท และเมื่ออบรมเสร็จเข้ารับการบรรจุแต่งตั้ง ยศสิบตำรวจตรี ณ หน่วยงานที่น้อง ๆ เลือกตามคะแนนการสอบวัดผลระหว่างการฝึกอบรม อัตราเงินเดือน 6,970 บาท มีเงินเพิ่มสำหรับสายงานป้องกันปราบปราม 3000 บาท และค่าครองชีพ สำหรับผู้มีเงินเดือนไม่เกิน 12280 บาท จำนวน 1500 ต่อเดือน รวม ๆ แล้วก็ถือว่าอยู่ในอย่างสมศักดิ์ศรี กับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน






งานป้องกันปราบปราม หรือ งานสายตรวจ

งานป้องกันปราบปราม ถือได้ว่าเป็นแม่บ้านของสถานีตำรวจ เพราะทุกอย่างต้องผ่านมางานนี้ก่อน ลำดับแรก ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้  งูเข้าบ้าน แม่บ้านทะเลาะกัน ต้องเรียกหาสายตรวจ ส่วนการจะดำเนินการอย่างไรขึ้นอยู่กับการบริหาร จัดการของหัวหน้าสถานีตำรวจ หรือเรียกว่าผู้กำกับการสถานีนั่นเอง

หลาย ๆ ท่านคงชินกับภาพเหล่านี้ครับ เพราะนี่คงงานของสายตรวจ ที่ท่าน ๆ ชินนั่นเอง


งูเข้าบ้าน


สายตรวจบริการประชาชน

ก่อนออกปฏิบัติหน้าที่แต่ละครั้งต้องมีการประชุมกันก่อน


ตรวจตู้แดง - ตรวจร้านทอง

หน่วยปฏิบัติการพิเศษ

หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ถือได้ว่าเป็นทีเด็ดสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะปฏิบัติภารกิจที่มีความยุ่งยาก มากยิ่งขึ้นกว่าจะใช้กำลังตามปกติได้ ส่วนมากจะใช้สำหรับภารกิจสำคัญจริง ๆ เช่น ภารกิจบุกชิงตัวประกัน ภารกิจช่วยเหลือบุคคลสำคัญของประเทศ เป็นต้น
สำหรับตำรวจมีหน่วยงานที่เป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษ สำคัญ ๆ 3 หน่วยงาน คือ
1 หน่วยคอมมานโด (Commando) สังกัดกองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตรวจสอบสวนกลาง


สัญญลักษณ์ กองบังคับการปราบปราม 
 ผู้นำหน่วย



  ภารกิจด้านการบริการ ให้ความรู้กับประชาชน


ภารกิจต่าง ๆ 


ผลงานคดีสำคัญ ๆ 



2 หน่วยอรินทราช 26 สังกัดตรวจปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตรวจนครบาล
3 หน่วยนเรศวร 261 สังกัดตรวจตระเวณชายแดน
4 หน่วยสยบไพรี สังกัดตรวจปราบปรามยาเสพติด
5 หน่วยปฏิบัติการพิเศษประจำตำรวจภูธรภาค 1-9 ประจำกองบังคับการ ประจำตำรวจภูธรจังหวัด ประจำสถานีตำรวจทุกหน่วย 



วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เกี่ยวกับการฝึกอบรมของนักเรียนนายสิบตำรวจ

กี่หมื่นคำบรรยาย ไม่เท่ากับเห็นภาพจริง ๆ ขออนุญาตนำภาพบรรยากาศหลากหลายของนักเรียนนายสิบตำรวจ หลักสูตรต่าง ๆ มาร่วมไว้ ณ ทีนี้ครับ

การทดสอบพละศึกษา 




การฝึกต่าง ๆ ของนักเรียนนายสิบ
http://www.youtube.com/watch?v=H0G_ouTD6_w

http://www.youtube.com/watch?v=DGvdEdY12-M

http://www.youtube.com/watch?v=DGvdEdY12-M

แบบเบา ๆ ครับ เดี๋ยวจะถอดใจไปซะก่อนครับ

Ash Poliz